การเติบโตก้าวกระโดดของธุรกิจ E-commerce

ธุรกิจสินค้าอีคอมเมิร์ซ เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้บริโภคหันมาช้อปปิ้งออนไลน์มากขึ้น สาเหตุหลักมาจากความสะดวก รวดเร็ว และตัวเลือกสินค้าที่หลากหลาย ธุรกิจอีคอมเมิร์ซจึงมีโอกาสเติบโตสูง

15892

ปัจจัยที่ขับเคลื่อนการเติบโต

มีหลายปัจจัยที่ขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ดังนี้:

  • การเข้าถึงอินเทอร์เน็ต: ผู้คนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตมากขึ้น โดยเฉพาะผ่านสมาร์ทโฟน ทำให้สะดวกต่อการช้อปปิ้งออนไลน์
  • การพัฒนาเทคโนโลยี: เทคโนโลยีการชำระเงินออนไลน์ และระบบโลจิสติกส์ พัฒนาขึ้น ช่วยให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ความสะดวก: ผู้บริโภคชอบความสะดวกของการช้อปปิ้งออนไลน์ โดยไม่ต้องเดินทางไปหน้าร้าน
  • ตัวเลือกสินค้า: สินค้าออนไลน์มีให้เลือกหลากหลาย มากกว่าหน้าร้านทั่วไป
  • ราคา: สินค้าออนไลน์มักมีราคาถูกกว่าหน้าร้าน เนื่องจากต้นทุน Overhead ต่ำ

บทบาทของการจัดส่ง

การจัดส่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ผู้บริโภคคาดหวังว่าจะได้รับสินค้ารวดเร็ว ปลอดภัย และติดตามสถานะได้ง่าย

ความท้าทาย

ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเผชิญกับความท้าทายหลายประการ ดังนี้:

  • การแข่งขัน: ธุรกิจอีคอมเมิร์ซมีการแข่งขันสูง ธุรกิจต้องหาจุดเด่นเพื่อดึงดูดลูกค้า
  • การคืนสินค้า: สินค้าออนไลน์มีอัตราการคืนสินค้าสูงกว่าหน้าร้าน ธุรกิจต้องมีระบบจัดการการคืนสินค้าที่มีประสิทธิภาพ
  • การหลอกลวง: ธุรกิจอีคอมเมิร์ซต้องระวังการหลอกลวงออนไลน์ เช่น การ phishing และการโจรกรรมข้อมูล

อนาคต

ธุรกิจอีคอมเมิร์ซมีอนาคตที่สดใส คาดว่าจะเติบโตต่อไป ผู้บริโภคจะหันมาช้อปปิ้งออนไลน์มากขึ้น ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในอนาคต จะเป็นธุรกิจที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดี

ข้อเสนอแนะสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

  • มุ่งเน้นไปที่ประสบการณ์ของลูกค้า: ลูกค้าคือหัวใจสำคัญ ธุรกิจต้องมุ่งเน้นไปที่การมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า
  • พัฒนาระบบโลจิสติกส์: ระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้จัดส่งสินค้าได้รวดเร็ว ปลอดภัย และติดตามสถานะได้ง่าย
  • หาจุดเด่น: ธุรกิจต้องหาจุดเด่นเพื่อดึงดูดลูกค้า เช่น สินค้าที่มีคุณภาพ บริการที่ดี หรือราคาที่ย่อมเยา
  • ปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์ใหม่: ธุรกิจต้องปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์ใหม่ เช่น การใช้โซเชียลมีเดีย หรือเทคโนโลยีใหม่ ๆ

ธุรกิจอีคอมเมิร์ซมีโอกาสเติบโตสูง ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ จะเป็นธุรกิจที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดี มุ่งเน้นไปที่ประสบการณ์ของลูกค้า พัฒนาระบบโลจิสติกส์ หาจุดเด่น และปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์ใหม่

ขนาดกล่องไปรษณีย์
พิมพ์แบรนด์

รุ่นและขนาดกล่อง(no price)

รุ่นกล่องขนาด (ซม.)
009.75 x 14 x 6
011 x 17 x 6
0+411 x 17 x 10
AA13 x 17 x 7
A / ก14 x 20 x 6
AB14 x 20 x 9
2A14 x 20 x 12
B / ข17 x 25 x 9
2B17 x 25 x 18
C / ค20 x 30 x 11
2C20 x 30 x 22
D / ง22 x 35 x 14
2D22 x 35 x 28
E / จ24 x 40 x 17
F / ฉ30 x 45 x 20
G เล็ก31 x 36 x 13
G31 x 36 x 26
2F30 x 45 x 40
สามารถส่งข้อมูลรายละเอียดเบื้องต้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ติดต่อกลับ
ภายในเวลาทำการ วันจันทร์ - วันเสาร์ เวลา 9.00-17:00 น.

*หากต้องการตีราคาด่วน กรุณาติดต่อ Line official @wbboxshop
ประเภทของกล่อง

ทรงกล่องที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน หลักๆ จะมี 8 ทรง ซึ่งเราได้อธิบายไว้ด้านล่างนี้ (แต่ละที่อาจเรียกชื่อต่างกัน) แต่เราจะใช้ชื่อที่พบเห็นได้บ่อยที่สุดพร้อมภาพประกอบให้ดูไปทีละทรง พร้อมแล้วก็ไปดูกันเลยค่ะ

1. ทรงฝาชน – เป็นทรงที่ใช้กับธุรกิจเกือบ 80% ในท้องตลาดเลยทีเดียวค่ะ

ข้อดี ราคาถูกที่สุด ทำได้ตั้งแต่ขนาดเล็กมาก จนถึงใหญ่มาก นิยมใช้กันหลากหลาย ประกอบขึ้นรูปง่าย วางซ้อนกันง่ายเหมาะกับธุรกิจที่ใช้งานจำนวนเยอะ และที่สำคัญกล่องฝาชนเหมาะกับการส่งออกหรือธุรกิจใหญ่ๆมากที่สุดค่ะ

ข้อด้อย ความสวยงาม (ขึ้นอยู่กับมุมมองและการใช้งานนะคะ) อาจจะมีลูกเล่นน้อย ไม่มีจุดเด่นที่น่าสนใจมากเท่าไหร่ค่ะ


2. ทรงไดคัทไปรษณีย์ไทย – ชื่อนี้คาดว่ามาจากบริษัทไปรษณีย์ไทย เพราะเป็นเจ้าแรกที่ริเริ่มผลิตออกมาจำหน่าย

ข้อดี แพ็คขึ้นรูปง่าย ดูสวยงามและสามารถเพิ่มลูกเล่นโดยการพิมพ์ข้อความบนแผ่นกระดาษด้านในหลังจากเปิดฝากล่องได้ นอกจากนี้ยังเป็นทรงที่ไปรษณีย์ไทยเลือกใช้มาตั้งแต่แรก ทำให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นและคนทั่วไปจึงเรียกต่อๆ กันมาว่าทรงไปรษณีย์ไทยนั่นเอง (เดิมเรียกว่าฝาเสียบด้านหน้า ซึ่งอาจทำให้สับสนกับทรงไดคัทอื่นๆ ได้ง่าย)

ข้อด้อย ผลิตเป็นทรงสูงและขนาดใหญ่มากไม่ได้ (เทียบกับทรงฝาชนที่ทำขนาดใหญ่ได้มากกว่า) ในกรณีใช้จำนวนมากๆ อาจจะเสียเวลาในการแพ็คมากกว่าปกติ เนื่องจากกล่องมีการพับไปมาที่ซับซ้อนและไม่ค่อยมีจุดยึดค่ะ


3. ทรงไดคัทหูช้าง – เป็นทรงที่แบรนด์ดังๆ ชั้นนำ เลือกใช้มากที่สุดก็ว่าได้ค่ะ

ข้อดี แข็งแรง ดูดี พรีเมียม เหมาะทำเป็นทรงเตี้ยๆ แบนๆ หรือไม่สูงมาก เหมาะกับสินค้าประเภทเสื้อผ้า สินค้าที่มีน้ำหนัก เช่น อะไหล่รถยนต์ หรือสินค้ามีมูลค่าสูงที่ต้องการกล่องพรีเมียมแต่เน้นประหยัดต้นทุนเพราะกล่องไดคัทสามารถเป็นทั้งแพ็คเก็จจิ้งสินค้าและใช้ส่งพัสดุได้ด้วย

ข้อด้อย ผลิตเป็นทรงสูง และขนาดใหญ่มากไม่ได้ (เทียบกับทรงฝาชนที่ทำขนาดใหญ่ได้มากกว่า)


4. ทรงไดคัทลิ้นล็อค – เป็นทรงไดคัทที่มีลิ้นด้านหน้าเป็นตัวล็อคอีกชั้นให้แน่นหนามากขึ้น

ข้อดี ผลิตเป็นทรงสูงได้มากกว่าทรงไปรษณีย์ไทยและทรงหูช้าง มีตัวล็อคช่วยปิดกล่องให้แน่นหนาแต่ยังเปิดปิดใช้งานได้ง่ายทั้งตอนแพ็คสินค้าและตอนลูกค้าเปิดใช้งาน เหมาะกับใส่สินค้าทั่วไปทุกประเภท

ข้อด้อย อาจจะขึ้นรูปยากเนื่องจากมีตัวล็อคทำให้ต้องเสียเวลาในการแพ็คมากขึ้น ไม่เหมาะกับการใช้จำนวนมากๆ เท่าไหร่นัก และผลิตเป็นขนาดใหญ่มากไม่ได้ (เทียบกับทรงฝาชนที่ทำขนาดใหญ่ได้มากกว่า)


5. ทรงพิซซ่า 

ข้อดี คล้ายกับทรงหูช้าง เหมาะกับสินค้าที่มีลักษณะเตี้ยๆ แบนๆ นิยมใส่อาหาร เช่น พิซซ่า เกี๊ยวซ่า หรืออาหารเดลิเวอรี่ต่างๆ เพราะกล่องทนทาน แข็งแรงเหมาะกับการขนส่งเคลื่อนย้าย นอกจากนี้ ตัวกล่องยังสามารถเจาะรูระบายอากาศ/ความร้อนได้ด้วย

ข้อด้อย กระดาษลูกฟูกไม่ใช่ฟู้ดเกรด ควรใช้กระดาษรองหรือห่ออาหารก่อนวางสัมผัสกล่อง และกล่องทรงนี้ผลิตเป็นขนาดใหญ่มากไม่ได้ 


6.ทรงกล่องรองเท้า

ข้อดี ทรงสวยงาม ฝาเปิดปิดง่าย นิยมใช้ใส่รองเท้า แต่จริงๆ แล้วสามารถใช้ใส่ของจิปาถะได้ทั่วไป สามารถทำเป็นแพ็คเกจจิ้งในการขายรองเท้าได้โดยตรง ปรับขนาดได้ตามสินค้าที่ใส่จริง

ข้อด้อย ผลิตเป็นขนาดใหญ่มากไม่ได้ (เทียบกับทรงฝาชนที่ทำขนาดใหญ่ได้มากกว่า)


7. ทรงก้นขัดฝาเสียบ หรือฝาเสียบบนล่า– ลองนึกถึงกล่องใส่แก้วที่ด้านบนเป็นฝาปิดและก้นกล่องด้านล่างเป็นกระดาษที่ขัดกัน

ข้อดี ใส่สินค้าทรงสูงได้เพราะสามารถผลิตกล่องเป็นทรงสูงได้ รับน้ำหนักสินค้าได้ดี เหมาะกับใส่พวกแก้ว ขวด โดยทั่วไปนิยมใช้กล่องทรงก้นขัดฝาเสียบใส่แก้วน้ำ ขวดเหล้า ไวน์ หรือของชำร่วยทรงสูง เช่น เทียน ร่ม

ข้อด้อย ผลิตเป็นขนาดใหญ่มากไม่ได้ (เทียบกับทรงฝาชนที่ทำขนาดใหญ่ได้มากกว่า) และไม่เหมาะกับการส่งทางขนส่งแต่เหมาะกับการเป็นแพ็คเกจจิ้งสินค้ามากกว่าค่ะ


8. ทรงไดคัทหูหิ้ว

ข้อดี มีหูหิ้วถือสะดวก และรูปทรงหูหิ้วทำให้ดูมีลูกเล่นและโดดเด่นเหมาะใช้เป็นกล่องสำหรับโชว์สินค้า เช่น วางขายหน้าร้าน หรือใช้เป็นกล่องใส่ของชำร่วยแจกในโอกาสต่างๆ

ข้อด้อย รับน้ำหนักได้จำกัด โดย 1 กล่องจะบรรจุสินค้าหนักได้อย่างมากคือประมาณ​ 5-6 กิโลกรัม

สามารถส่งข้อมูลรายละเอียดเบื้องต้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ติดต่อกลับ
ภายในเวลาทำการ วันจันทร์ - วันเสาร์ เวลา 9.00-17:00 น.

*หากต้องการตีราคาด่วน กรุณาติดต่อ Line official @wbboxshop
เกรดกระดาษลัง

📦 W หรือ KS ( สีขาว ) ความหนา 140 , 170 แกรม

คุณสมบัติ กระดาษสีขาวนวล แกรมหนากว่ากระดาษน้ำตาลทั่วไป ทนต่อความชื้นได้ดี

การใช้งาน เหมาะสำหรับงานที่ต้องการเน้นความสวยงาม สีที่พิมพ์ลงกระดาษจะดูสวยสด เสมือนสีจริงมากที่สุด

.

📦 M หรือ CA ( สีน้ำตาลเข้ม ) ความหนา 105 , 110 , 115 , 125 , 150 แกรม

คุณสมบัติ กระดาษรีไซเคิล 100%

การใช้งาน เหมาะสำหรับทำแผ่นรอง ไส้ในกล่อง และลอนด้านในกระดาษลูกฟูก

.

📦 KT ( สีน้ำตาล ) ความหนาของแกรม 125 , 150 , 175 , 200 แกรม

คุณสมบัติ สีกระดาษออกโทนต้นไม้ คุณภาพดีกว่าสเปค M หรือ CA นิดนึง

การใช้งาน เหมาะสำหรับสินค้าทั่วไป ที่เน้นราคาถูก ไม่ทนต่อความชื้นมาก

.

📦 KA ( สีน้ำตาลทอง ) ความหนาของแกรม 125 , 150 , 185 , 230 แกรม

คุณสมบัติ ทนต่อความชื้นได้ดี มีความหนาให้เลือกตามความเหมาะสมของสินค้า

การใช้งาน เหมาะสำหรับกล่องบรรจุห้องเย็น สินค้าส่งออก กล่องบรรจุผลไม้ และสินค้าอุตสาหกรรมทั่วไป

.

📦 KI ( สีน้ำตาลอ่อน ) ความหนาของแกรม 125 , 150 , 185 แกรม

คุณสมบัติ กระดาษสีน้ำตาลนวลๆ สไตล์มินิมอล มีความหนาให้เลือกตามความเหมาะสมของสินค้า

การใช้งาน เหมาะสำหรับสินค้าทั่วๆไปในท้องตลาด สินค้าออนไลน์ อุปโภคบริโภค อาหาร เครื่องสำอาง อาหารเสริม ฯลฯ

WB BOX เลือกใช้กระดาษสีนี้เป็นหลัก ดูเรียบง่าย สะอาดตา พิมพ์สวยเด่นขึ้นมาจากสเปคกระดาษน้ำตาลอื่นๆ
.

.

กล่องพร้อมส่งลาย thank you และ กล่องสั่งผลิตพิมพ์แบรนด์ เน้นคุณภาพด้วยการเลือกใช้

  • กระดาษผิวนอก หนา 150 แกรม กระดาษหนา เหนียว พิมพ์สวย ไม่ขึ้นลอน
  • ลอนด้านใน หนา 125 แกรม รับน้ำหนักได้ดี ไม่ยุบง่าย

ความต้องการอื่น

  • เน้นถูก ใช้สเปค ผิวนอก = KI125, ลอน = CA105
  • เน้นแข็งแรงขึ้นอีก ใช้สเปค ผิวนอก = KI185, ลอน = CA150
สามารถส่งข้อมูลรายละเอียดเบื้องต้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ติดต่อกลับ
ภายในเวลาทำการ วันจันทร์ - วันเสาร์ เวลา 9.00-17:00 น.

*หากต้องการตีราคาด่วน กรุณาติดต่อ Line official @wbboxshop
สอบถามข้อมูลการทำกล่อง
Contact_Salepage
สามารถส่งข้อมูลรายละเอียดเบื้องต้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ติดต่อกลับ
ภายในเวลาทำการ วันจันทร์ - วันเสาร์ เวลา 9.00-17:00 น.

*หากต้องการตีราคาด่วน กรุณาติดต่อ Line official @wbboxshop